จริงหรือไม่? ชาร์จเร็วทำให้แบตเตอรี่เสื่อม!?!

ข่าวสารและบทความ - มกราคม 27, 2022

“เค้า” ว่าการชาร์จเร็วทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปรกติ

ในความเป็นจริงแล้ว “เค้า” เชื่อว่าการชาร์จเร็วทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ก็ไม่ผิดซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ เสื่อมหรือเสียก่อนเวลาอันควรก็คือความร้อน

ความร้อนเกิดขึ้นได้อย่างไร? ความร้อนในเซลล์แบตเตอรี่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีไฟฟ้าซึ่งเกิดขึ้นได้ระหว่างการชาร์จไฟ และระหว่างการคลายประจุ (การใช้งาน)

ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งความร้อน และความเย็น มีผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ รวมไปถึงอายุการใช้งานด้วย แต่ความร้อนจะส่งผลให้เห็นชัดเจนกว่าเพราะความร้อนจะส่งผลโดยตรงกับเคมีที่อยู่ในเซลล์แบตเตอรี่ รวมไปถึงส่วนประกอบของเซลล์แบตเตอรี่ด้วย

ความร้อนจะเป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์แบตเตอรี่ให้เร็วขึ้นซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็แลกมาด้วยอายุการใช้งานที่น้อยลง

ตัวอย่างใกล้ตัวของการชาร์จเร็วแล้วทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ก็มีให้เห็นในโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะรุ่นที่ไม่ได้ออกแบบมารองรับการชาร์จเร็ว

ซึ่งเครื่องเหล่านี้จะไม่มีกลไกป้องกันตัวที่ดีพอเมื่อชาร์จด้วยแหล่งจ่ายไฟที่จ่ายกระแสสูง แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมเร็วเพราะความร้อนที่เกิดจากการชาร์จไฟ

แต่ในกรณีของเครื่องมือไฟฟ้าจะต่างออกไป

ตอบเลยว่า… ทำไม่ได้ เพราะแบตเตอรี่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟ (การการเก็บประจุ) หรือการจ่ายไฟให้กับเครื่องมือไฟฟ้า (การคลายประจุ) ล้วนอาศัยการทำปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดความร้อนภายในเซลล์

เราไม่สามารถห้ามความร้อนให้เกิดภายในเซลล์ได้ แต่สามารถควบคุมไม่ให้ร้อนเกินไปได้

สำหรับ Milwaukee นั้น ได้พัฒนาระบบแบตเตอรี่ M12 และ M18 มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008 ทำให้เรามองเห็นจุดอ่อนเหล่านี้ และสร้างระบบป้องกันความร้อนภายในแบตเตอรี่ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ความร้อนที่เกิดจากการชาร์จ (การประจุไฟฟ้า) และความร้อนที่เกิดจากการใช้งาน (การคลายประจุ)

ชาร์จยังไงให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมไว?

คำตอบง่ายมากคือแค่ชาร์จปกติง่ายๆ ไม่ต้องใช้ท่ายาก กับแท่นชาร์จของ Milwaukee นั่นแหละดีที่สุดแล้ว

เซลล์แบตเตอรี่ที่เรารู้จักและเห็นกันทั่วๆไปก็คือพวกถ่านไฟฉาย ไม่ว่าจะขนาด AA หรือ AAA ก็เป็นที่คุ้นตากัน และรู้กันมาตั้งนานว่ามันมีแค่ขั้วบวกกับขั้วลบ ซึ่งเซลล์ของแบตเตอรี่ Li-Ion ก็เช่นกัน มีขั้วบวกและขั้วลบ

แต่ถ้าเราสังเกตที่ตัวแบตเตอรี่ REDLITHIUM™ ของ Milwaukee มีช่องต่อกับแท่นชาร์จและตัวเครื่องถึง 5ช่อง และตัวแท่นชาร์จสำหรับ M18 มีเขี้ยวที่เสียบเข้าไปในแบตฯ ถึง 4 เขี้ยว แน่นอนว่าไม่ได้ทำมาเล่นๆ เพราะนอกจากการจ่ายไฟทั้งขั้วบวกและลบแล้ว แท่นชาร์จและแบตเตอรี่ยังต้องทำความรู้จักและสื่อสารกันด้วย

ทุกครั้งที่เราเสียบแบตฯเข้ากับแท่นชาร์จ แท่นชาร์จจะรู้ว่ากำลังทำงานกับแบตฯ รุ่นไหน มีความจุเท่าไหร่ สามารถจ่ายกระแสเข้ามากสุดแค่ไหน เมื่อไหร่ที่ควรลดการจ่ายไฟลง ซึ่งการคำนวณจะรวมไปถึงปริมาณไฟที่มีในแบตฯ และอุณหภุมิภายในแบตฯ ด้วย

ระบบแบตเตอรี่ FUEL ของ Milwaukee ที่คิดค้นมาตั้งแต่ปี 2012 มาพร้อมการจัดการความร้อนที่ดีในตัวแบตเตอรี่

FUEL เป็นระบบการจัดการกับ 3 หัวใจหลักของเครื่องมือไฟฟ้าไร้สาย มอเตอร์, แบตเตอรี่, และชุดวงจร ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ จะมีการสื่อสารกันตลอดเวลาที่ใช้งาน เพื่อการดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมา แต่ขณะเดียวกัน FUEL ยังมีหน้าที่ในการป้องกันความเสียหายของระบบภายในอันเนื่องมาจากการใช้งาน และนั่นรวมถึงความร้อนที่เกิดขึ้นภายในแบตเตอรี่อีกด้วย

© 2024 Milwaukee Tool Thailand สงวนลิขสิทธิ์